ภาพที่ ๒ ทรงรับคำเชิญ แล้วจุติมากำเนิด ในตระกูลกษัตริย์ศากยะ ณ กรุงกบิลพัสดุ์

 

ภาพที่ ๒ ทรงรับคำเชิญ แล้วจุติมากำเนิดในตระกูลกษัตริย์ศากยะ ณ กรุงกบิลพัสดุ์

ภาพนี้เป็นภาพตอนที่พระโพธิสัตว์เจ้า ซึ่งต่อมาคือเจ้าชายสิทธัตถะ หรือพระพุทธเจ้า กำลังเสด็จจากสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อเสด็จเข้าสู่พระครรภ์พระมารดา วันที่เสด็จลงบังเกิด นั้น ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งเป็นเวลาที่พระเจ้าสุทโธทนะ พระบิดากับพระนาง สิริมหามายาพระมารดา ได้อภิเษกสมรสไม่นาน

คืนวันเดียวกันนั้น พระนางสิริมหามายากำลังบรรทมหลับสนิทในแท่นที่บรรทมแล้ว  ทรงสุบินนิมิตว่า พระนางไปอยู่ในป่าหิมพานต์ ได้มีช้างเผือกเชือกหนึ่งลงมาจากยอดเขา สูง เข้ามาหาพระนาง ปฐมสมโพธิพรรณาเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ว่า "...มีเศวตหัตถีช้างหนึ่ง ชูงวงอันจับบุณฑริกปทุมชาติสีขาวเพิ่งบานใหม่มีเสาวคนธ์หอมฟุ้งตลบแล้วร้อง โกญจนาท เข้ามาในกนกวิมาน แล้วกระทำประทักษิณพระองค์อัน บรรทมถ้วนสามรอบ แล้วเหมือนดุจเข้าไปในอุทร ฝ่ายทักษิณปรัศว์แห่งพระราชเทวี..."

ภายหลังโหราจารย์ประจำราชสำนักทำนายว่าเป็นสุบินนิมิตที่ดี จะมีพระราชโอรสผู้ ประเสริฐอุบัติบังเกิด และเมื่อพระมารดาทรงครรภ์แล้ว ปฐมสมโพธิได้พรรณา ตอนที่พระ โพธิสัตว์เสด็จอยู่ในพระครรภ์พระมารดาว่า "...เหมือนดุจด้ายเหลืองอันร้อยเข้าไปในแก้ว มณีอันผ่องใส เมื่อปรารถนาจะทอดพระเนตรในขณะใด ก็เห็นพระโอรสนั่งเป็นบัลลังก์ สมาธิ (นั่งขัดสมาธิ) ผันพระพักตร์มาข้างหนึ่งพระอุทรแห่งพระมารดา ดุจสุวรรณปฎิมา อันสถิตอยู่บนฝักอ่อนในห้องแห่งกลีบปทุมชาติ แต่โพธิสัตว์มิได้เห็นองค์ชนนี..."

วันที่พระโพธิสัตวเจ้าเสด็จลงสู่พระครรภ์ กวีผู้แต่งเรื่องเฉลิมพระเกียรติได้พรรณาว่า  มีเหตุมหัศจรรย์ เกิดขึ้นเหมือนกับตอนประสูติ ตรัสรู้ และตรัสปฐมเทศนา จะต่างกันบ้างก็แต่ในรายละเอียดเท่านั้น เช่นว่า กลองทิพย์บันลือลั่นทั่วท้องเวหา คนตาบอดกลับมองเห็น คนหูหนวกกลับ ได้ยิน ตอนนั้นถ้าจะถ่ายทอดพระพุทธเจ้าออกจากวรรณคดี มาเป็นพระพุทธเจ้าในพุทธประวัติก็ว่า กลองทิพย์บันลือลั่นนั้น คือ 'นิมิต' หมายถึง พระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้าที่จะแผ่ไปทั่วโลก คนตาบอด หูหนวก คือ คนที่มีกิเลส ได้สดับรสธรรมแล้วจะหายตาบอด หูหนวก หรือมีปัญญา รู้แจ้งมองเห็นทางพ้นทุกข์นั้นเอง

 ดูก่อนอานนท์ ! โพธิสัตว์ มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม จุติจากหมู่เทพชั้นดุสิตแล้ว ก้าวลงสู่ครรภ์แห่งมารดา ในขณะนั้น แสงสว่าง อันโอฬารจนหาประมาณมิได้ ยิ่งใหญ่กว่าอานุภาพของเทวดาทั้งหลายจะบันดาลได้, ได้ปรากฏขึ้นในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มาร โลก. พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์พร้อมทั้งเทวดาแลมนุษย์ ถึงแม้ในโลกันตริกนรก อันโล่งโถงไม่มี อะไรปิดกั้น แต่มืดมนหาการเกิดแห่งจักขุวิญญาณมิได้ อันแสงสว่างแห่งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ อันมีฤทธิอานุภาพ อย่างนี้ ส่องไปไม่ถึงนั้น แม้ในที่นั้น แสงสว่างอันโอฬารจนหาประมาณมิได้ยิ่งใหญ่กว่าอานุภาพของเทวดาทั้งหลายจะบัน ดาลได้ ก็ได้ปรากฏขึ้นเหมือนกันสัตว์ที่เกิดอยู่ ณ ที่นั้น รู้จักกันได้ด้วยแสงสว่างนั้นพากันร้องว่า "ท่านผู้เจริญทั้งหลายเอ๋ย ผู้อื่นอันเกิดอยู่ในที่นี้ นอกจากเรา ก็มีอยู่เหมือนกัน" ดังนี้ และหมื่นโลกธาตุนี้ ก็หวั่นไหวสั่นสะเทือนสะท้าน. แสงสว่างอัน โอฬารจนหาประมาณมิได้ ได้ปรากฏขึ้นในโลก เกินกว่าอานุภาพของเทวดาทั้งหลายจะบันดาลได้.

บาลี อัจฉริยอัพภูตธัมมสูตร อุปริ. ม. ๑๔/๒๔๘/๓๖๔

 

Last modified on Thursday, 07 February 2019 03:41

เนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า

เรียนรู้พุทธประวัติจากภาพวาดพุทธประวัติอันทรงคุณค่าของบรมครูเหม เวชกร นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาพุทธประวัติได้จาก "พระพุทธจริยวัตร 60 ปาง"

ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาในโซนที่ 1  Read more

เนื้อหาเกี่ยวกับพระธรรม

ในโซนที่ 2 ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้นำหลักธรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนามาแสดงไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจในการอยากค้นคว้าหาความรู้ที่ถูกต้องยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ศึกษาเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาในโซนที่ 2 Read more

หลักปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอริยบุคคล

บริเวณโซน 10 ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้คัดสรรหลักธรรมปฏิบัติเพื่อการบรรลุความเป็นพระอริยบุคคลของครูบาอาจารย์สายพระวัดป่า ผู้ที่ได้รับความยอมรับนับถือว่ามีปฏิปทาและได้ปฏิบัติธรรมอย่างอุกกฤษ Read more

พระอรหันต์ 29 องค์

โซน 12 เป็นโซนที่แสดงถึงความสำเร็จของพระอริยสงฆ์ ที่สามารถปฏิบัติธรรมจนสำเร็จชั้นการเป็นพระอรหันต์ 29 องค์ เพื่อมาให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา ได้ถือรายนามเดียวกันกับที่แสดงในพระเจดีย์ 28 พระอรหันต์ ที่วัดอโศการาม  Read more

You are here: Home Navigations Floor 1 Plan Zone 1 : Buddha ภาพที่ ๒ ทรงรับคำเชิญ แล้วจุติมากำเนิด ในตระกูลกษัตริย์ศากยะ ณ กรุงกบิลพัสดุ์